เครือข่ายป่าไม้ภาคพลเมือง ประกาศเจตนารมย์เดินหน้าร่วมกันเพื่อสิทธิชุมชน เน้นย้ำคนกับป่า ร่วมขับเคลื่อนธรรมาภิบาลป่าไม้ไทย
วันที่ 10 กรกฏาคม 2562 ที่ผ่านมา เครือข่ายป่าไม้ภาคพลเมือง ประกาศเจตนารมย์ขับเคลื่อนร่วมกันจากตัวแทนเครือข่ายทั่วประเทศ เพื่อเน้นย้ำถึงสิทธิชุมชนและการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากรร่วมในพื้นที่ป่าไม้ ภายใต้สถานการณ์การประกาศใช้กฏหมายป่าไม้ รวมถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการบริหารป่าในแต่ละพื้นที่ของไทย การประกาศนี้ถือเป็นแนวหลักสำคัญของงานสมัชชาป่าไม้ภาคพลเมือง ครั้งที่ 2 "รวมพลังสู่ความยั่งยืนร่วมขับเคลื่อนธรรมาภิบาลป่าไม้ไทย" ณ โรงแรมเอบีน่า เฮาส์ ซ.วิภาวดีรังสิต 64 กรุงเทพฯ ร่วมจัดโดยศูนย์วนศาสตร์ชุมชนเพื่อคนกับป่า (รีคอฟ) แผนงานประเทศไทย มูลนิธิเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (ภาคเหนือ) และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) สนับสนุนโดยสหภาพยุโรป สมัชชาฯนี้มุ่งหมายให้เกิดการรวมพลัง ขับเคลื่อน กำหนดทิศทาง และระดมความร่วมมือกัน เพื่อริเริ่มการบริหารจัดการป่าไม้ไทยในรูปแบบใหม่ รวมทั้งผลักดันให้เกิดธรรมาภิบาลป่าไม้และแนวทางการสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนในภาคป่าไม้
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวเปิดงานว่า “กรมป่าไม้มีคำขวัญใหม่ว่า รักป่า รักประชาชน รักป่าอย่างเดียวไม่ได้ ต้องรักประชาชนด้วย ป่าถึงจะอยู่ได้ สมัชชาป่าไม้ภาคพลเมืองเป็นคำที่เพราะและมีความหมายมาก นโยบายเพิ่มพื้นที่สีเขียวจึงสำคัญมาก ผมเชื่อมั่นว่า ภาคพลเมืองที่นั่งอยู่ที่นี่ เป็นพื้นที่ที่สร้างความไว้วางใจและสร้างความร่วมมือกันกับภาครัฐสร้างระบบธรรมาภิบาลร่วมกัน ตอนนี้กรมป่าไม้สร้างระบบธรรมาภิบาลป่าไม้สำหรับไม้เศรษฐกิจแล้ว เรื่องของระบบการรับประกันความถูกต้องของไม้ที่ต้องออกมาจากพื้นที่ที่ถูกกฏหมาย ทำร่วมกับสหภาพยุโรปเป็นมาตรฐานที่ตรวจสอบย้อนกลับได้ เป็นทางป้องกันไม่ให้มีไม้ผิดกฏหมายเกิดขึ้น เผื่อเอื้อประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนสามารถปลูกขายอย่างถูกต้อง ส่งออกนอกประเทศได้ และมีอำนาจในการต่อรอง เพราะประเทศไทยมีศักยภาพที่ปลูกไม้ได้ดีมาก คุณภาพไม้ก็ดี”
นายเกรียงไกร ชีช่วง เครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมภาคตะวันตก หนึ่งในตัวแทนเครือข่ายฯได้กล่าวว่า “เครือข่ายป่าไม้ภาคพลเมืองจากกว่า 38 จังหวัดทั่วประเทศ ที่มารวมกันในครั้งนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนและร่วมหาแนวทางเน้นย้ำส่งเสริมสิทธิของประชาชน คนอยู่ร่วมกับป่าได้และสร้างธรรมาภิบาลในการจัดการป่าไม้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อความสมดุลของระบบนิเวศ การใช้ประโยชน์ การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และการพัฒนาที่ยั่งยืน”
อีกทั้งทางเครือข่ายป่าไม้ภาคพลเมืองต้องการสร้างพื้นที่ของการมีส่วนร่วมในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวและแสดงพลังของการเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสร้างและจัดการป่าไม้ของประเทศ ทางเครือข่ายฯพร้อมด้วยภาคส่วนต่างๆ จึงริเริ่มกิจกรรมรณรงค์ “We are the FOREST: พลเมืองสร้างป่า เพาะกล้าไม้พันธุ์ดี 10 ล้านต้น” ขึ้น เพื่อเพิ่มพื้นที่ป่าและแสดงเจตนารมณ์ในการเป็นผู้จัดการป่าในระยะยาวให้กับประเทศ โดยจะเริ่มทำการเพาะกล้าไม้ท้องถิ่นจากป่าชุมชนในเครือข่ายป่าไม้ภาคพลเมืองใน 38 จังหวัด ทั่วประเทศและจะทำการปลูกในระยะเวลา 1 ปีจากนี้ และจัดการดูแลโดยชุมชน ควบคู่ไปกับสร้างระบบติดตามเพื่อดูแลความเติบโตและร่วมสื่อสารเรื่องราวของต้นไม้ร่วมกันต่อไป สามารถลงทะเบียนร่วมและติดตามกิจกรรมนี้ได้ที่ www.facebook.com/ ศูนย์วนศาสตร์ชุมชนเพื่อคนกับป่า ประเทศไทย และ www.recoftc.org/thailand