RECOFTC ประเทศไทย
FLEGT Thailand

ความคืบหน้าของการประชุมคณะอนุกรรมการการเตรียมเจรจาฯ

การประชุมคณะอนุกรรมการการเตรียมเจรจาเพื่อเตรียมการรองรับการบังคับใช้กฎหมายป่าไม้ธรรมภิบาลและการค้า จัดขึ้นโดยสำนักเลขานุการไทย อียู-เฟล็กที ณ กรมป่าไม้ เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

การประชุมครั้งนี้ประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานรัฐ  เอกชน และภาคประชาสังคม โดยมีนายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้เป็นประธาน ในขณะที่นายวิโรจน์ ติปิน และนายพงศา ชูแนม เป็นตัวแทนเครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อการจัดการป่าอย่างยั่งยืนและเป็นธรรมเฟล็กที ร่วมประชุมในฐานะคณะอนุกรรมการเตรียมเจรจาฯ

มติจากที่ประชุม                                                                                                                                      ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างระเบียบการทำข้อตกลงเป็นหุ้นส่วนด้วยความสมัครใจเฟล็กที-วีพีเอ (FLEGT VPA) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2559  และเห็นด้วยกับการนำร่างขอบเขตผลิตภัณฑ์ ที่ประกอบด้วยการรับรองแหล่งที่มาของไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ส่งออกสู่สหภาพยุโรป การปรับปรุงและกำหนดหลักเกณฑ์และระเบียบปฏิบัติในการรับรองแหล่งที่มาของไม้และผลิตภัณฑ์ไม้  รวมถึงมาตรการป้องกันและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากกฎระเบียบการทำกระบวนการเฟล็กที-วีพีเอ และการมีกลไกส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในประเทศ รวมถึงการเจรจาเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย นอกจากนี้ยังเห็นว่าการร่วมเจรจาข้อตกลงเป็นหุ้นส่วนด้วยความสมัครใจเฟล็กที-วีพีเอ ไม่ใช่เพียงแค่รองรับกระบวนการเฟล็กทีเท่านั้ แต่ยังช่วยในการพัฒนาระบบการทำไม้ของประเทศไทยให้ถูกต้องตามกฎหมาย ลดการค้าไม้เถื่อน 

ความคิดเห็นของอธิบดีกรมป่าไม้                                                                                                               อธิบดีกรมป่าไม้มีความเห็นว่าการทำข้อตกลงเฟล็กทีนี้เป็นวาระสำคัญในการสร้างระบบการตรวจสอบที่มาไม้ ซึ่งมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย “ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการแปรรูปไม้ หากมีการส่งเสริมการปลูกไม้เศรษฐกิจควบคู่กับนโยบายที่ชัดเจน จะทำให้อุตสาหกรรมไม้ขับเคลื่อนได้ ซึ่งการส่งออกสินค้าไม้ไปต่างประเทศได้จะต้องมีหลักประกันคุณภาพที่ชัดเจน และแหล่งที่มาของไม้อย่างถูกฎหมาย”  

ทั้งนี้อธิบดีกรมป่าไม้ยังให้ความสนใจและตระหนักถึงการแก้ไขปัญหาในเอกสารช่องว่าง(Gap paper) โดยกรมป่าไม้รับหน้าที่แก้ไขปัญหาในส่วนที่เกี่ยวข้อง และจะเป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆ เพื่อแก้ไขช่องว่างต่อไป

ความสำคัญของการประชุมคณะอนุกรรมการเตรียมเจรจาฯ

มติในที่ประชุมครั้งนี้จะนำเข้ารายงานต่อปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการประชุมคณะเจรจาทำข้อตกลงเป็นหุ้นส่วนสมัครใจ-วีพีเอของการบังคับใช้กฎหมายป่าไม้ ธรรมมาภิบาล และการค้าเฟล็กทีระดับประเทศ ในวันที่  15 มีนาคม พ.ศ. 2560 ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อนำไปสู่ประชุมเจรจาระดับเทคนิคระหว่างประเทศไทยและสหภาพยุโรป  (Joint Expert Meeting : JEM) วันที่ 24-27 เมษายน พ.ศ. 2560  ซึ่งฝ่ายไทยจะมีปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหัวหน้าทีมเจรจา ก่อนที่จะมีการเจรจาหุ้นส่วนสมัครใจ - วีพีเอ (VPA) ระดับตัวแทนรัฐบาลระหว่างไทยและสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการ 

ที่มาแหล่งข้อมูล                                                                                                                                    สรุปการประชุม “ การประชุมคณะอนุกรรมการการเตรียมเจรจาเพื่อเตรียมการรองรับการบังคับใช้กฎหมายป่าไม้ธรรมภิบาลและการค้า ” โดยสำนักเลขานุการไทย อียู-เฟล็กที