RECOFTC ประเทศไทย
กิจกรรม

เวทีเปิดตัวรายงาน 30 ปี ขบวนการป่าชุมชนและเสวนา พรบ.ป่าชุมชน 2562

Nov 22
2019
Location
ห้องไชน่า ณ ศูนย์วนศาสตร์ชุมชนเพื่อคนกับป่า (RECOFTC)
เวทีเปิดตัวรายงานการ30ปีป่าชุมชนและเสวนาพรบ.ป่าชุมชน2562
เวทีเปิดตัวรายงานการศึกษา "30 ปี ขบวนป่าชุมชน บทเรียน และทิศทางการขับเคลื่อนสู่ทศวรรษที่ 4”  และเสวนาหัวข้อ “ความท้าทายและข้อเสนอแนะต่อพรบ.ป่าชุมชน เมื่อบังคับใช้กฎหมายแล้ว” 
วันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 (0900-1200 น.) ณ ศูนย์วนศาสตร์ชุมชนเพื่อคนกับป่า (รีคอฟ)
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กรุงเทพมหานคร

 

หลักการและเหตุผล
กว่า 3 ทศวรรษที่มีการขับเคลื่อนป่าชุมชนในสังคมไทย จากจุดเริ่มต้นเหตุการณ์ที่ห้วยแก้ว จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อ 30 ปีที่ผ่านมาซึ่งในช่วงนั้นรัฐยังมีการให้เอกชนสัมปทานป่าไม้ เหมืองแร่ ทั่วทุกภูมิภาค ส่งผลกระทบต่อชุมชนท้องถิ่นชาวบ้านห้วยแก้ว กิ่งอำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่รวมตัวกันต่อต้านนายทุนที่เข้ามาเช่าพื้นที่ป่าสาธารณะปลูกสวนป่าเศรษฐกิจ ประกอบกับเหตุการณ์ดินโคลนถล่มที่อำเภอกระทูน จังหวัดนครศรีธรรมราช สร้างความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สินของประชาชน เกิดมีกระแสการปกป้องป่า จนรัฐบาลยุติสัมปทานป่าบกทั่วประเทศในปี พ.ศ. 2532  และเกิดกระแสชุมชนปกป้องป่าและต้องการมีส่วนร่วมในการจัดการป่าในรูปแบบป่าชุมชน  และพยายามในการผลักดันกฎหมายป่าชุมชนเรื่อยมาแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง แต่ในขณะเดียวกันก็มีการขยายตัวของเครือข่ายป่าชุมชนอย่างกว้างขวางทุกภูมิภาค และเรียกร้องการมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรป่าไม้จนสิทธิชุมชนปรากฏในรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2540และยังคงผลักดันให้มี พรบ.ป่าชุมชน ประชาชนใช้สิทธิ์เสนอร่างกฎหมายโดยการเข้าชื่อตามรัฐธรรมนูญ เป็นร่างกฎหมายฉบับแรกที่ประชาชนเป็นฝ่ายยื่นกฎหมายในสังคมไทยในปี พ.ศ. 2541แต่ด้วยแนวคิดการจัดการป่าโดยชุมชนมีความแตกต่างหลากหลายทำให้มีการยื่นร่าง พรบ. ป่าชุมชนจากหลายภาคส่วนทั้งจากภาครัฐ ภาคฝ่ายการเมือง ฯลฯ แต่ก็ตกไปในทุกรัฐบาลที่ผ่านมาแม้จะไม่มีกฎหมายรองรับ จน ปี. พ.ศ. 2561 รัฐบาลได้มีการหยิบยกร่าง พรบ.ป่าชุมชนมาพิจารณา โดย สภาขับเคลื่อนการปฏิรูป (สปท.) นำร่างฉบับของสภานิติบัญญัติ(สนช.) สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และของกรมป่าไม้มาพิจารณา และเสนอร่าง พรบ.ป่าชุมชนให้ ครม.พิจารณาและได้เห็นชอบในปี พ.ศ. 2561 และสภานิติบัญญัติแห่งชาติเห็นควรประกาศเป็นกฎหมายในวันที่ 29 พ.ค. 2562  โดยจะบังคับใช้ทุกมาตราในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 ทั้งนี้ยังมีประเด็นท้าทายหลายประการในการปฏิบัติทั้งพื้นที่ที่จะจัดตั้งเป็นป่าชุมชนได้ ซึ่งปัจจุบันกำลังร่างกฎกระทรวงว่าด้วยพื้นที่อนุรักษ์  โดย1 ใน 4 คือพื้นที่มีคุณค่าหรือความโดดเด่นทางระบบนิเวศและได้รับการประกาศและขึ้นทะเบียนกับองค์กรประเทศ เช่น พื้นที่ชุ่มน้ำ หรือแรมซ่าร์ซึ่งพบว่าป่าหลายแห่งที่ชุมชนดูแลจัดการป่าที่อยู่ในเขตพื้นที่ชุ่มน้ำ ป่าชุ่มน้ำ เช่น 17 ป่าชุมชนในพื้นที่ลุ่มน้ำอิง ป่าบุ่งป่าทามในลุ่มน้ำสงครามตอนล่างจำนวนมากที่ดูแลจัดการป่ามายาวนานมาหลายสิบปีนอกจากนี้ยังมีพบว่ายังมีพื้นที่ป่าที่ชุมชนจัดการดูแลในรูปแบบเป็นป่าชุมชนมาอย่างยาวนานกว่า 300 แห่ง แล้วต่อมาเป็นพื้นที่เตรียมประกาศพื้นที่อนุรักษ์ จะมีทางเลือกทางออกกันอย่างไรในวาระที่จะมีเริ่มบังคับใช้กฎหมายป่าชุมชนในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 จึงจะจัดการเปิดตัวเอกสารและแลกเปลี่ยน เส้นทาง 30 ปีขบวนป่าชุมชน บทเรียน และทิศทางขับเคลื่อน พร้อมกับการเสวนา ทิศทางป่าชุมชนในทศวรรษที่ 4 และทางเลือกทางออกกรณีที่ยังเป็นเรื่องท้าทายของป่าชุมชนภายใต้นโยบาย กฎหมายใหม่

วัตถุประสงค์
1.    นำเสนอและเปิดตัวรายงานการศึกษาและแลกเปลี่ยน 30 ปี ขบวนป่าชุมชน บทเรียนและทิศทางขับเคลื่อนสู่ทศวรรษที่ 4 
2. แลกเปลี่ยนความคิดเห็นข้อเสนอแนะต่อกฎหมายป่าชุมชน

กลุ่มเป้าหมาย  30 คน  ประกอบด้วยตัวแทนเครือข่ายป่าชุมชนแต่ละภูมิภาค นักวิชาการ องค์กรพัฒนาเอกชน สื่อมวลชน และนิสิต นักศึกษา ผู้สนใจทั่วไป

หน่วยงานรับผิดชอบ
•    แผนงานประเทศไทย ศูนย์วนศาสตร์ชุมชนเพื่อคนกับป่า
•    คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

สถานที่
ห้องไชน่า ณ ศูนย์วนศาสตร์ชุมชนเพื่อคนกับป่า (รีคอฟ) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จตุจักร กรุงเทพมหานคร
 

เวลา

รายละเอียดกิจกรรม

9.00 – 9.30 น.

ลงทะเบียนรับเอกสาร 30 ปี ขบวนป่าชุมชนในสังคมไทยและทิศทางในทศวรรษที่ 4

9.30 – 9.40 น.

  • กล่าวรายงานความเป็นมา วัตถุประสงค์โดยคุณวรางคณา รัตนรัตน์  ผู้อำนวยการ แผนงานประเทศไทย ศูนย์วนศาสตร์ชุมชนเพื่อคนกับป่า
  • กล่าวเปิดการเสวนาโดย ผศ.นิคม แหลมหลัก คณบดี คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

9.40 – 10.00 น.

แนะนำเอกสาร“30 ปี ขบวนป่าชุมชน บทเรียนและทิศทางขับเคลื่อนสู่ทศวรรษที่ 4”

โดย ดร.กฤษฏา บุญชัย มูลนิธิชุมชนท้องถิ่นพัฒนา และ ระวี ถาวร แผนงานประเทศไทย ศูนย์วนศาสตร์ชุมชนเพื่อคนกับป่า

10.00 – 11.00 น.

เสวนา จากบทเรียน 30 ปีป่าชุมชน...สู่ก้าวต่อไปทศวรรษที่ 4  

 ร่วมเสวนาโดย

  • ดร.สมศักดิ์ สุขวงศ์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ แผนงานประเทศไทย
    ศูนย์วนศาสตร์ชุมชนเพื่อคนกับป่า 
  • ดร.กฤษฎา บุญชัย มูลนิธิชุมชนท้องถิ่นพัฒนา
  • อ.ดร.สุรินทร์ อ้นพรม  ตัวแทนคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
  • คุณเอกชัย อิสระทะ ตัวแทนเครือข่ายป่าไม้ภาคพลเมืองดำเนินรายการโดย คุณกนกพร ดีบุรี ผู้ประสานงานโครงการเครือข่ายป่าไม้ภาคพลเมือง

11.00 - 11.15

รับประทานอาหารว่าง

11.15- 12.30 น.

 เสวนา ความท้าทายและข้อเสนอแนะต่อพรบ.ป่าชุมชน เมื่อบังคับใช้กฎหมายแล้ว

   วิทยากร

  1. คุณประทีป มีคติธรรม เลขานุการคณะกรรมาธิการที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ สภาผู้แทนราษฎร
  2. ดร.เพิ่มศักดิ์ มกราภิรมย์ ที่ปรึกษาศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดลและนักวิชาการอิสระด้านสิทธิมนุษยชน
  3. ตัวแทนชุมชนในพื้นที่เตรียมประกาศอุทยาน
  4. คุณสมเกียรติ  เขื่อนเชียงสา  ตัวแทนชุมชนพื้นที่ป่าชุ่มน้ำอิง
  5. คุณวิโรจน์ ติปิน ตัวแทนเครือข่ายป่าไม้ภาคพลเมือง

ดำเนินรายการโดยระวี ถาวร แผนงานประเทศไทย ศูนย์วนศาสตร์ชุมชนเพื่อคนกับป่า

12.30 น.

ปิดการเสวนา